นอกจากเอวหนาๆ ของเราจะบอกถึงความเสี่ยงของโรคอันตรายอย่าง โรคอ้วน หรือไขมันพอกตับแล้ว ยังสามารถบอกความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้ด้วย มากกว่า 10 ปีแล้วที่นักวิจัยมากมายยืนยันว่า ขนาดของเอวมีความสำคัญต่อร่างกายมากกว่าขนาดต้นแขน ต้นขา หรือสะโพก เพราะหากคุณเป็นหนึ่งในคนที่เป็นเจ้าของรูปร่างคล้าย “แอปเปิ้ล” แสดงว่าคุณอาจเสี่ยงโรคอันตรายหลายอย่าง ทั้งโรคอ้วน ไขมันพอกตับ ไขมันอุดตันเส้นเลือด ไขมันในเลือดสูง Dr. Osama Hamdy แพทย์อำนวยการคลินิคปัญหาน้ำหนัก ที่ Joslin Diabetes Center ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวว่า “เมื่อเอวของคุณขยายใหญ่ขึ้น ความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือดก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วย” ซึ่งเป็นส่วนของไขมันที่ไม่เหมือนกับการวัดไขมันบริเวณต้นขา หรือสะโพก
วิธีวัดเอวที่ถูกต้อง จะต้องวัดทั้งเอว และวัดอัตราส่วนของเอวถึงสะโพก การวัดเอว คือ หายใจออกให้สุดท้อง พันสายวัดรอบเอวโดยไม่สวมเสื้อผ้า บริเวณเหนือกระดูกสะโพกที่พบได้ใกล้ๆ เอวทั้งด้านขวา และด้านซ้าย รีบวัดค่าเอวก่อนที่จะหายใจเข้า ส่วนการวัดอัตราส่วนของเอวถึงสะโพก ต้องวัดขนาดของสะโพกก่อน โดยพันสายวัดบริเวณที่สูงที่สุด หนาที่สุดของสะโพก แล้วนำค่าที่ได้มาหารกับขนาดของเอวที่วัดไปก่อนหน้านี้
ผู้หญิง ที่มีขนาดเอวมากกว่า 35 นิ้วขึ้นไป และอัตราส่วนของเอวถึงสะโพก มากกว่า 0.9 ขึ้นไป
ผู้ชาย ที่มีขนาดเอวมากกว่า 40 นิ้วขึ้นไป และอัตราส่วนของเอวถึงสะโพก มากกว่า 1.0 ขึ้นไป
หากคุณลดขนาดของเอวได้ นั่นหมายถึง คุณช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : sanook.com
ติดตามข่าวสารสุขภาพและนวัตกรรมด้านสุขภาพ ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/myhealthfirstofficial
tiktok : @myhealthfirst_mhf