myHealthWorld myHealthThink myHealthPeek myHealthMob License AgreementPrivacy PolicySupport Center
Product
myHealthFirst myHealthCare myHealthMob myHealthThink myHealthRoom Plug Tablet
Service
Smart Hospital Corporate Wellness Home Monitoring
Download
myHealthFirst APK
Contact
Login
Paracetamol ยาครอบจักรวาล จริงเหรอ??

 ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) จัดเป็นยาสามัญประจำบ้าน ที่ต้องมีติดบ้าน ซึ่งยาพาราเซตามอลนั้นหาซื้อง่าย ตามร้านยาหรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ และยังสามารถใช้ได้ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ จัดเป็นยาที่ไม่อันตราย แต่หากกินผิดวิธีก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ซึ่งวันนี้ myHealthFirst จะมาแนะนำวิธีการทานที่ถูก และบอกเล่าถึงสรรพคุณของยาพาราเซตามอล ว่าสามารถรักษาได้ทุกโรคจริงเหรอ วันนี้เราจะบอกกัน

สรรพคุณยาพาราเซตามอล (Paracetamol)
       ยาพาราเซตามอลจัดเป็นยาในกลุ่มลดไข้ บรรเทาอาการปวดที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ปวดหัว ปวดท้อง ปวดฟัน เป็นต้น ซึ่งยาพาราเซตามอลนั้นไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดขั้นรุนแรงและไม่สามารถใช้เป็นยาแก้อักเสบได้

  • หลักการทานยา
          การทานยาพาราเซตามอลแบบถูกต้องและเหมาะสม คือเป็นการทานแบบที่เหมาะกับน้ำหนักตัว ซึ่งจะต้อง
           -  กินยาห่างกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
           -  ผู้ใหญ่ ทานครั้งละ 1-2 เม็ด และ หากในเด็ก แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานทุกครั้ง
           -  ไม่ควรกินเกิน 8 เม็ด ต่อวัน และไม่ควรกินเกิน 5 วัน
          ถ้าหลังจากทานยาพาราเป็นเวลา 5 วันแล้วไม่หาย ให้รีบเข้ารับการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล หรือ ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ทันที

ความเข้าใจผิดในการทานยาพาราเซตามอล
       เชื่อว่าใครหลายๆคนจะต้องเคยได้ยินว่าถ้ารู้สึกจะไม่สบายให้ทานยาดักไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ไข้ ซึ่งหากถ้าทานยาแบบนี้จะเป็นการทานที่ไม่เกิดประสิทธิภาพในการรักษา และไม่สามารถช่วยป้องกันได้

       จากข้อมูลนี้ทำให้ทุกทราบถึงข้อเท็จจริง วิธีการทานที่ถูกต้อง และที่มาที่ไปของยาพาราเซตามอล ( Paracetamol ). myHealthFirst แอพสุขภาพจึงอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี เพราะการยาเพื่อบรรเทาอาการไปตลอดมักจะมีผลข้างเคียงต่อร่างกายเสมอ มาดูแลสุขภาพให้ดีไปด้วยกันกับเรานะคะ.
ติดตามข่าวสารสุขภาพและนวัตกรรมด้านสุขภาพ ได้ที่

 

ติดตามข่าวสารสุขภาพและนวัตกรรมด้านสุขภาพ ได้ที่ 

Facebook : https://www.facebook.com/myhealthfirstofficial

tiktok : @myhealthfirst_mhf

โพสต์เมื่อ : 21/01/2022
บทความที่คุณอาจสนใจ