พาราเซตามอล กินมากไปเสี่ยงทำลายตับ
“พาราเซตามอล” คือยาสามัญประจำบ้านที่หลายคนรู้จัก และคุ้นเคยเป็นอย่างดีใช่ไหมละค่ะ หลายบ้านยังมีติดไว้เพื่อใช้ในการลดไข้และบรรเทาอาการปวดในชีวิตประจำวันอีกด้วย ถือเป็นยาที่เข้าถึงได้ง่ายและจัดเป็นยาที่ไม่อันตราย แต่ในขณะเดียวกันหากมีการใช้ยาไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน
การใช้ยาพาราเซตามอล ที่ถูกวิธี
💊 กินครั้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
💊 ไม่ควรกินเกิน 8 เม็ดต่อวัน หรือ 4 กรัม/วัน
💊 สามารถกินก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
💊 ระวังในผู้ป่วยที่มีภาวะการทำงานของตับบกพร่องหรือน้ำหนักตัวน้อย เนื่องจากอาจจำเป็นต้องปรับขนาดยา
อาการของการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด
💊 ระยะที่ 1 คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร และจะมีเหงื่อออกร่วมด้วยเป็นระยะสั้นๆ โดยจะเกิดภายใน 24 ชั่วโมง หรือบางรายอาจไม่มีอาการ
💊 ระยะที่ 2 หลังกินยาระหว่าง 24-48 ชั่วโมง มักจะไม่มีอาการแสดง แต่เมื่อเจาะเลือดจะพบว่าเอนไซม์ทรานซามิเนส (transaminase) เริ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่แสดงถึงการบาดเจ็บของตับ
💊 ระยะที่ 3 หลังกินยาไปแล้ว 48 ชั่วโมง มีอาการตับอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหารอีกครั้ง มีภาวะแทรกซ้อนเหมือนตับอักเสบทั่วไป หากรุนแรงอาจมีอาการสมองเสื่อมจากโรคตับ และเสียชีวิตได้หากได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที
รู้กันอย่างนี้แล้ว ทุกคนควรทานยาในตามปริมาณ วันเวลาที่ถูกต้องด้วยน่ะค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้ตับของเราถูกทำลาย ทั้งนี้แนะนำว่าไม่ควรทานยาพาราเซตามอลอย่างพร่ำเพรื่อน่ะค่ะ